คาราบาว

วงดนตรีเพื่อชีวิตสัญชาติไทยตลอดกาล ที่ไม่ว่าจะยุคไหน เทศกาลอะไรเพลงของพวกเขายังสามารถเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกได้ทุกช่วงวัย ชื่อเสียงที่นำพาพวกเขามาอยู่ในจุดที่ประสบความสำคัญกับเรื่องราวที่น่ายินดี จะมีอะไรบ้างนั้นติดตามชมได้เลยครับ จุดเริ่มต้นของคาราบาว สมาชิกของวงคาราบาวเริ่มแรกมีเพียงสามท่านได้แก่ แอ๊ด ยืนยง โอภากุล, กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร และ สานิตย์ ลิ่มศิลา ซึ่งในขณะนั้นตั้งวงขึ้นมาเพื่อแสดงบนเวทีในงานของมหาวิทยาลัยในประเทศฟิลิปปินส์ขณะที่ทั้งสามท่านกำลังศึกษาอยู่ โดยชื่อวงที่ตั้งขึ้นมานั้นมาความหมายในภาษาตากาล็อกว่า ควายและคนใช้แรงงาน ที่สำคัญการแสดงดนตรีของพวกเขาจะเล่นไปในแนวโฟล์ค เนื้อหาเพลงสะท้อนปัญหาของสังคม ในปี 2524 วงคาราบาวได้ออกอัลบั้มชุดแรกชื่อ “ขี้เมา” ขณะที่พวกเขากลับมายังประเทศไทยแล้ว จนกระทั้งอัลบั้มที่ 3 “วณิพก” ปล่อยออกมาก็ยิ่งสร้างความนิยมและฐานแฟนคลับได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะกลุ่มนักทำงานนักสู้ชีวิตที่เมื่อได้ฟังเพลงของคาราบาวก็ได้ สร้างพลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป จุดสูงสุดของความสำเร็จที่คาราบาวทำได้ในตอนนั้น เมื่อปี 2527 กับอัลบั้ม “เมด อิน ไทยแลนด์” ที่สามารถทำยอดขายสูงสุดในประเทศไทย อัลบั้มที่ออกมาทั้ง 5 ชุดต้องบอกได้ว่าประสบความสำเร็จได้ทุกชุดที่ออกมา ที่สำคัญคาราบาวได้มีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตในหลายๆ ประเทศอีกด้วย ผลงานเพลง การรังสรรค์ผลงานเพลงด้วยความตั้งใจ ทำให้คาราบาวเป็นอีกหนึ่งวงคุณภาพที่เพลงของพวกเขาหลายเพลงยังคงตราตรึงความรู้สึกของผู้ฟังให้หวนกลับมาฟังได้ไม่มีเบื่อ โดยเพลงที่คนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจอยู่เช่น คนล่าฝัน, ทะเลใจ, เมด อิน ไทยแลนด์, บัวลอย, หนุ่มบาวสาวปาน และราชาเงินผ่อน เป็นต้น การเติบโตของธุรกิจ ความสำเร็จที่นอกเหนือจากการเป็นศิลปินแล้ว แอ๊ด คาราบาวหรือนายยืนยง โอภากุลยังลงทุนใน “ธุรกิจคาราบาวแดง” ร่วมกันในกลุ่มธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ตั้งแต่ปี 2544 ในการประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้สโลแกน “คาราบาวแดง เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่”