ลำไย ไหทองคำ

ชื่อที่พวกเรารู้จัก นามจริงๆของเธอคือ สุพรรณษา เวชกามา ชื่อเล่นว่า อ้าย บ้านผักเผ็ด ตำบลน้ำคำ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด คือบ้านเกิดของเธอ อ้ายเกิดมาในครองครัวที่มีฐานะยากจนชีวิตต้องดิ้นรน พ่อและแม่ของอ้ายจึงย้ายครอบครัวเข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานคร อ้ายต้องทำงานหาเลี้ยงชีพตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล แม้แต่เวลากลางคืน ก็เร่ขายของตามสถานบันเทิง ประวัติของลำไย ไหทองคำ เมื่อเข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมที่โรงเรียนวัดยางสุทธาราม เขตบางกอกน้อย อ้ายเริ่มเข้าสู่วงการดนตรีด้วยการรับงานกับวงอิเล็กโทน ทำหน้าที่แดนเซอร์และร้องเพลงบ้างตั้งแต่อยู่ชั้นประถมปีที่ 4 ด้วยพรสวรรค์ หรือฟ้าประทานก็ตามสิ่งที่อยู่ในตัวเธอคือ พรแสวงแน่ๆ ลำไย ไหทองคำร้องทั้งเพลงลูกทุ่ง หมอลำซิ่ง และแดนเซอร์เดินสายไปทุกที่จนกระทั่งเธอได้พบกับอาจารย์ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ จึงได้เซนต์สัญญาเป็นศิลปินในสังกัด ความมุ่งมั่นที่ไม่เคยลดละ ลำไย ไหทองคำ เป็นชื่อหนึ่งในสองที่อาจารย์ประจักษ์ชัยตั้งให้ อ้ายเลือกชื่อนี้แทน สำเพ็ง เด้งดีเพราะไปคล้ายกับย่านสำเพ็งอาจสบสนได้ เพลงแรกของ ลำไย ไหทองคำ ที่ถูกปล่อยออกมาคือ 17 สิเข้า ด้วยลีลาท่าเต้นแบบสะเด็ดสะเด่าทำให้เธอโดนกระแสสังคมวิพาควิจารณ์อย่างหนักในแง่ลบของท่าเต้นที่ไม่เหมาะสม เธอถูกทางโรงเรียนตักเตือนหลายครั้ง จึงทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนขณะนั้นเธอเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยความแซบของเธอกลับยิ่งทำให้มีคนติดตามมากขึ้น เธอเดินหน้าต่อทำงานอย่างเต็มที่ไม่ท้อถอยต่อคำถากถางใดๆ เธอบอกว่า...พฤติกรรมบนเวทีคือการแสดง มีคนจ้างเล่นต้องเล่นให้เต็มที่และนี่คือ การทำงานของเธอและเพื่อปากเพื่อท้องของเธอและครอบครัว ผลงานเพลง กระแสดราม่าท่าเต้นยังไม่จบดี สาวลำไย ไหทองคำก็กระหน่ำเพลงที่ 2 ด้วยบทเพลงผู้สาวขาเลาะ เมื่อปลายปี 2559 ผู้สาวขาเลาะ ถ่ายทอดโดยลำไย ไหทองคำ คำร้องเป็นหมอลำสนุกๆที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของเด็กสาวชาวอิสานแบบบ้านๆใช้ภาษาถิ่นอิสานแท้ๆ โดยมีเนื้อหาที่บอกถึงสาวชาวบ้านที่ชอบเที่ยว ไม่อยากไปเรียน จ้องอยากมีแฟน ประมาณว่าลั้ลลาไปวันวัน และน้ำเสียงที่ร้องประกอบดนตรีที่เล้าใจสไตล์เร็กเก้มีความแปลกใหม่ ทำให้ติดหูผู้ฟังอย่างรวดเร็ว เพราะร้องตามง่าย เนื้อหาเพลงร้องแล้วได้คิดตามทั้งสนุกทั้งขำ จนกลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต ทำลายสถิติทะลุถึงสามร้อยล้านวิว